คลังความรู้
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
Department of Thai Traditional and Alternative Medicine
คลังความรู้
เกร็ดความรู้
ถาม-ตอบ ข้อมูลสมุนไพร
เกี่ยวกับเรา
คลังความรู้
ข้อมูลงานวิจัย
ชื่อเรื่อง
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการออกกำลังกายแบบโยคะ ฤๅษีดัดตนและการยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการปวดคอและบ่าในกลุ่มพนักงานสำนักงาน
ชื่อเรื่อง (ภาษาอังกฤษ)
-
ชื่อเรื่อง (ภาษาจีน)
สถานะของงานวิจัย
เสร็จสิ้นการดำเนินการ
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ - นามสกุล
e-mail
เจ้าของ/ผู้พิมพ์
เจ้าของลิขสิทธิ์
ชนิดของเอกสาร
บทคัดย่อ
วิจัย
การแพทย์แผนไทย
ประเภทของงานวิจัย
วิทยาศาสตร์
2
15
คำสำคัญของงานวิจัย
โยคะ, ฤาษีดัดตน, ยืดกล้ามเนื้อ, ปวดคอและบ่า, สมรรถภาพทางกาย, คุณภาพชีวิตการทำงาน
บทคัดย่อ/สาระสำคัญ
Office Syndrome เป็นกลุ่มอาการเจ็บป่วยที่มีความสัมพันธ์กับการทำงานในผู้ที่ทำงานในสำนักงานหรือพนักงานออฟฟิศ โดยเฉพาะที่ใช้คอมพิวเตอร์ประกอบการทำงาน ในปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของประชากรลดลง กลุ่มอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานที่พบบ่อย คือ กลุ่มอาการปวดจากกล้ามเนื้อและพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดมากที่สุดถึงร้อยละ 78 โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดคอและบ่า เป็นกลุ่มอาการที่พบมากที่สุดในพนักงานที่ท างานในส านักงาน ซึ่งส่งผลเสียอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต เกิดความสูญเสียด้านระบบเศรษฐกิจและด้านสาธารณสุข วัตถุประสงค์: 1) เพื่อประเมินประสิทธิผลของการออกก าลังกายแบบโยคะ ฤๅษีดัดตน และการยืด กล้ามเนื้อต่ออาการปวดคอและบ่า และการเพิ่มคุณภาพชีวิตการทำงานในกลุ่มพนักงานสำนักงาน และ 2) เพื่อประเมินประสิทธิผลของการออกกำลังกายแบบโยคะ ฤๅษีดัดตน และการยืดกล้ามเนื้อ ต่อ การใช้ออกซิเจนสูงสุด (VO2max) และสัดส่วนของไขมันในร่างกาย (Body fat percentage) วิธีดำเนินกำรวิจัย : เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มโดยมีกลุ่มควบคุม (Randomized Control Trial) กลุ่มประชากร คือ พนักงานสำนักงานที่ใช้คอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวัน 4 วันต่อสัปดาห์ และมีอาการปวดคอและบ่าเป็นมาไม่น้อยกว่า 3 เดือน เข้ารับการรักษาที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทย โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก และได้รับการวินิจฉัยจากศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ และแพทย์แผนไทยว่ามีอาการปวดคอและ บ่า การสุ่มตัวอย่างโดยวิธีอาศัยความน่าจะเป็นอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยมีผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวน 84 ราย แบ่งเป็นกลุ่มออกกำลังกายโยคะ 28 ราย ฤๅษีดัดตน 28 ราย และกลุ่มออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อ 28 ราย แต่ละกลุ่มจะท าการออกก าลังกายครั้งละ 45 นาที จ านวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ (วันที่ 1,3,5) เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ โดยมีครูโยคะ ฤๅษีดัดตนและครูยืดกล้ามเนื้อเป็นผู้ ฝึกสอน และทำการประเมินผล 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 (baseline) สัปดาห์ที่ 2 และ สัปดาห์ที่ 4 ประเมิน ระดับความปวด ด้วยแถบวัดระดับความรู้สึก (Visual Analog Scale), ระดับความรู้สึกกดเจ็บ (Pressure Pain Threshold), องศาการเคลื่อนไหวของคอ (Cervical Rang Of Motion), ประเมินความเข้มข้นของการออกกำลังกาย (VO2max, RPE, Body Fat Percentage and BMI) และประเมินระดับคุณภาพชีวิต การทำงาน (WHOQOL-BREF-THAI) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบไคสแควร์ และสถิติเชิงอนุมาน โดยใช้ one-way analysis of variance ผลกำรวิจัย การศึกษาวิจัยครั้งนี้พบว่าการออกกำลังกายทั้ง 3 อย่าง ได้แก่ โยคะ ฤาษีดัดตน และการยืดกล้ามเนื้อ มีประสิทธิผลในการลดอาการปวดคอและบ่าได้ และยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางกาย ร่างกาย ส่งผลดีต่อหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด เมื่อฝึกเป็นประจ าจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้ และยัง เพิ่มระดับคุณภาพชีวิตการทำงาน จึงเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับพนักงานสำนักงาน
วันเดือนปีที่พิมพ์
ที่อยู่ผู้พิมพ์
Call number/ISBN
ภาษาที่ใช้
เอกสาร
เอกสาร
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการออกกำลังกายแบบโยคะ ฤๅษีดัดตนและการยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการปวดคอและบ่าในกลุ่มพนักงานสำนักงาน.pdf
สมุนไพรที่พบในงานวิจัย
ชื่อสมุนไพรที่ค้นพบในงานวิจัย
ตำรับ/ยาเดี่ยวที่พบในงานวิจัย
ชื่อตำรับยาที่ค้นพบในงานวิจัย
จำนวนคนเข้าใช้งาน
คน