คลังความรู้
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
Department of Thai Traditional and Alternative Medicine
คลังความรู้
เกร็ดความรู้
ถาม-ตอบ ข้อมูลสมุนไพร
เกี่ยวกับเรา
คลังความรู้
ข้อมูลงานวิจัย
ชื่อเรื่อง
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการนวดไทยแบบราชสำนักกับ Diclofenac ในผู้ป่วยปวดเข่าจากโรคข้อเข่าเสื่อม
ชื่อเรื่อง (ภาษาอังกฤษ)
A Comparative Randomized Controlled trial study : The Efficacy of Court-type Thai Traditional Massage versus Diclofenac on Knee Pain in Patients with Osteoarthritis of The Knee
ชื่อเรื่อง (ภาษาจีน)
สถานะของงานวิจัย
เสร็จสิ้นการดำเนินการ
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ - นามสกุล
e-mail
เจ้าของ/ผู้พิมพ์
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
เจ้าของลิขสิทธิ์
ชนิดของเอกสาร
บทคัดย่อ
วิจัย
การแพทย์แผนไทย
ประเภทของงานวิจัย
วิทยาศาสตร์
2
22
คำสำคัญของงานวิจัย
บทคัดย่อ/สาระสำคัญ
โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of the knee) เป็นโรคที่พบไดบ่อยในผู้มีอายุวัยกลางคนขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุระะหว่าง 40-60 ปี มักพบในผู้หญิงมากกว่าเพศชายและพบในผู้ที่มีรูปร่างอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมากหรือรูปร่างสมบูรณ์ แต่ใช้งานข้ออย่างหนัก วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลระหว่างการนวดไทยแบบราชสำนักกับการใช้ยา Diclofenac ต่อการบรรเทาอาการปวดเข่าจากโรคข้อเข่าเสื่อม วัสดุและวิธีการ: การศึกษาคร้ังนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก Experimental study: Randomized control trial (RCT) เก็บข้อมูล ณ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทย โรงพยาบาลพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น อาสาสมัครอายุ ๕๐-๖๕ ปี ได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ออร์โธปิกดิกส์ว่ามีอาการปวดเข่าจากโรคข้อเข่าเสื่อม และผ่านการคัดกรองตามเกณฑ์การคัดเข้า โดยแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มที่ ๑ (กลุ่มรักษา n = ๓๐ คน) รับการรักษาด้วยวิธีการนวดไทยแบบราชสำนักโดยแพทยแ์ผนไทยประยุกต์ (ผู้วิจัย) กลุ่มที่ (กลุ่มควบคุม n = ๓๐ คน) ได้รับการรักษาด้วยวิธีรับประทานยาไดโคฟีแนค ขนาด ๒๕ มิลลิกรัม รับประทานครั้งล่ะ ๑ เม็ด ๓ เวลา หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ทันที ได้มีการติดตามผลการรักษาเป็นระยะเวลา ๑๒ สัปดาห์ โดยใช้เครื่องในการประเมินผลการรักษา ดังต่อไปนี้คือ ๑. มาตรวัดระดับความเจ็บปวด (VAS ) ๒. การเครื่องมือประเมินพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ๓. แบบประเมินระดับความรุนแรงของภาวะข้อเข่าเสื่อม (Index of severity for osteoarthritis of the knee: Knee ISOA) ๔.การประเมินการวัดการทำงานของร่างโดยการเดินไป-กลับ ๓ เมตร (Time up and go test) ๕.แบบประเมินอาการปวดข้อเข่าและประสิทธิภาพในการทำกิจวตัร(Modified WOMAC Scale) ผลการศึกษา: อาสาสมคัร ท้้ง ๒ กลุ่ม ไม่มีความแตกต่างกัน ระหว่างงอายุ, ค่าดัชนีมวลกาย, หลังจากได้รับ การรักษาแล้วอาการปวดเข่าลดลงท้้ง ๒ กลุ่ม กลุ่มที่ไดรับการรักษาด้วยวิธีนวดแผนไทยแบบราชสำนักมีอาการปวดลดลงมากกว่ากลุ่มใช้ยา (VAS ก่อนการนวด ๖.๑๓ ± ๐.๗๘ และ ๕.๙๘ ± ๐.๗๓ หลังนวด ๒.๖๒ ± ๐.๕๐ และ ๒.๖๓ ± ๐.๕๘ ตามลำดับ ) สำหรับตัวแปรอื่น ๆ ในกลุ่มที่ไดรับการนวดแผนไทยแบบราชสำนักก็สามารถลดอาการปวดและเพิ่มการทำงานของข้อเข่าไดดีกว่ากลุ่มใช้ยาเล็กน้อย สรุป: การนวดไทยแบบราชสำนักมีประสิทธิผลในการลดอาการปวดเข่าได้ดีกว่าการใช้ยา Diclofenac เล็กน้อยและไม่มีผลข้างเคียงในการรักษาจากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้การนวดไทยแบบราชสำนักจึงสามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม
วันเดือนปีที่พิมพ์
ที่อยู่ผู้พิมพ์
สำนักงานบริหารกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
Call number/ISBN
ภาษาที่ใช้
เอกสาร
เอกสาร
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของการนวดไทยแบบราชสำนักกับ Diclofenac.pdf
สมุนไพรที่พบในงานวิจัย
ชื่อสมุนไพรที่ค้นพบในงานวิจัย
ตำรับ/ยาเดี่ยวที่พบในงานวิจัย
ชื่อตำรับยาที่ค้นพบในงานวิจัย
จำนวนคนเข้าใช้งาน
คน