คลังความรู้
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
Department of Thai Traditional and Alternative Medicine
คลังความรู้
เกร็ดความรู้
ถาม-ตอบ ข้อมูลสมุนไพร
เกี่ยวกับเรา
คลังความรู้
ข้อมูลงานวิจัย
ชื่อเรื่อง
ผลของตำรับยาสมุนไพรหลังคลอดของโรงพยาบาลกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
ชื่อเรื่อง (ภาษาอังกฤษ)
Effect of Postpartum Herbal of KabChoeng Hospital, Surin Province
ชื่อเรื่อง (ภาษาจีน)
สถานะของงานวิจัย
เสร็จสิ้นการดำเนินการ
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ - นามสกุล
e-mail
ขนิษฐา มีประดิษฐ
เจ้าของ/ผู้พิมพ์
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
เจ้าของลิขสิทธิ์
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ชนิดของเอกสาร
บทคัดย่อ
วิจัย
การแพทย์แผนไทย
ประเภทของงานวิจัย
วิทยาศาสตร์
2
5
คำสำคัญของงานวิจัย
ตำรับยาสมุนไพรหลังคลอด/ระดับยอดมดลูก/วันที่น้าคาวปลาหมด/สุขภาพของมารดาหลัง คลอด/มารดาหลังคลอด/ลำดับการตั้งครรภ์/วันที่ 1 หลังคลอด
บทคัดย่อ/สาระสำคัญ
การศึกษาผลของตำรับยาสมุนไพรหลังคลอดที่ใช้ในโรงพยาบาลกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ที่มีต่อมารดาหลังคลอด โดยเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลพานทอง จังหวัดชลบุรี ที่ไม่ได้มีการใช้ยาสมุนไพรหลัง คลอด ประชากรที่ศึกษาเป็นมารดาหลังคลอดอายุระหว่าง 18 ถึง 35 ปี คลอดแบบปกติระยะ 1-7 วัน ที่มารับบริการในโรงพยาบาลทั้งสองแห่งระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2555 กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาหลังคลอด ที่มารับบริการที่โรงพยาบาลกาบเชิง จานวน 39 ราย และกลุ่มควบคุมเป็นมารดาหลังคลอด ที่มารับบริการที่โรงพยาบาลพานทอง จำนวน 78 ราย รูปแบบของการวิจัยเป็นการวิจัยกึ่งทดลอง ทำการเก็บข้อมูลในวันที่ 1, 2, 3, 5 และ 7 หลังคลอด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบบันทึกการวัดระดับยอดมดลูก 2) แบบประเมินลักษณะน้าคาวปลา 3) แบบสอบถามสุขภาพหลังคลอด ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยเปรียบเทียบการลดระดับของยอดมดลูก วันที่น้าคาวปลาหมดโดยสังเกตจากสีและกลิ่นของน้าคาวปลาในวันที่น้าคาวปลาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองปนขาวและหมดกลิ่น และประเมินสุขภาพทั่วไปของมารดาหลังคลอด ผลการศึกษาพบว่า การหดตัวของมดลูกโดยการวัดระดับยอดมดลูกในกลุ่มที่ได้รับยามีการลดลงมากกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้ยาอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยเริ่มเห็นความแตกต่างตั้งแต่วันที่ 2 หลังคลอด และลดลงมากที่สุดในวันที่ 7 หลังคลอด โดยมีค่าลดลงเฉลี่ย วันที่ 2, 3, 5 และ 7 คิดเป็น ร้อยละ 13.96, 21.97, 30.72 และ 49.00 ตามลาดับ ในขณะที่กลุ่มไม่ใช้ยามีค่าลดลงร้อยละ 9.23, 16.00, 23.53 และ 33.43 ตามลาดับ ด้านวันที่น้าคาวปลาหมดพบว่า กลุ่มที่ใช้ยาจะมีการหมดของน้าคาวปลาเร็วกว่ากลุ่มไม่ใช้ยาโดยในวันที่ 6 หลังคลอดมีจานวนร้อยละของกลุ่มผู้ใช้ยา 46.15 น้ำคาวปลากลายเป็นสีเหลืองปนขาวและหมดกลิ่น แต่กลุ่มไม่ใช้ยามีเพียงร้อยละ 28.21 ส่วนในด้านสุขภาพโดยรวมประเมินผลจากแบบสอบถามในวันที่ 7 หลังคลอด พบว่าการปวดกระดูกบริเวณ สะโพก ข้อต่อ กระดูกสันหลัง การปวด หรือบวม บริเวณแผลฝีเย็บ ปริมาณน้านมและอาการคัดตึงเต้านม และการถ่ายอุจจาระกลุ่มใช้ยาดีกว่ากลุ่มไม่ใช้ยาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากผลวิจัยนี้ยืนยันได้ว่าตารับยาสมุนไพรหลังคลอดของโรงพยาบาลกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ มีผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก การขับน้าคาวปลา และสุขภาพโดยรวมของมารดา ซึ่งน่าจะมีประโยชน์ต่อมารดาหลังคลอดและหากมีการศึกษาเรื่องความปลอดภัยในการใช้ก็น่าจะมีการส่งเสริมนำมาให้ใช้ในการดูแลมารดาหลังคลอดต่อไป
วันเดือนปีที่พิมพ์
ที่อยู่ผู้พิมพ์
สำนักงานบริหารกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
Call number/ISBN
ภาษาที่ใช้
เอกสาร
เอกสาร
ผลของตารับยาสมุนไพรหลังคลอด ของโรงพยาบาลกาบเชิง.pdf
สมุนไพรที่พบในงานวิจัย
ชื่อสมุนไพรที่ค้นพบในงานวิจัย
ตำรับ/ยาเดี่ยวที่พบในงานวิจัย
ชื่อตำรับยาที่ค้นพบในงานวิจัย
จำนวนคนเข้าใช้งาน
คน