คลังความรู้
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
Department of Thai Traditional and Alternative Medicine
คลังความรู้
เกร็ดความรู้
ถาม-ตอบ ข้อมูลสมุนไพร
เกี่ยวกับเรา
คลังความรู้
ข้อมูลงานวิจัย
ชื่อเรื่อง
ผลของยาไพลในการยับยั้งปฏิกิริยารอยนูนแดงของสารฮิสตะมีนและสารก่อภูมิแพ้ที่ผิวหนังของผู้ป่วยโพรงจมูกอักเสบภูมิแพ้
ชื่อเรื่อง (ภาษาอังกฤษ)
Inhibitory Effect of Phlai Capsule on the Histamine and Allergen-induced Wheal and Flare Response on Skin Test Response among Allergic Rhinitis Patients
ชื่อเรื่อง (ภาษาจีน)
สถานะของงานวิจัย
เสร็จสิ้นการดำเนินการ
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ - นามสกุล
e-mail
อรพรรณ โพชนุกูล
ประภาศรี กุลาเลิศ
ภัทรา ตันติเจริญวิวัฒน์
ทวีผล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา
เจ้าของ/ผู้พิมพ์
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
เจ้าของลิขสิทธิ์
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ชนิดของเอกสาร
บทคัดย่อ
วิจัย
การแพทย์แผนไทย
ประเภทของงานวิจัย
วิทยาศาสตร์
2
3
คำสำคัญของงานวิจัย
บทคัดย่อ/สาระสำคัญ
ไพลเป็นพืชในวงศ์ Zingiberaceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Zingiber cassumnunar Roxb มีศักยภาพในการนามาพัฒนาเพื่อการรักษาโรคหืด สาร D ซึ่งเป็นสารสาคัญที่แยกได้จากไพลมีคุณสมบัติสามารถต้านฤทธิ์ของฮิสตะมีนที่มีต่อหลอดลมของหนูตะเภาทั้งขณะที่อยู่ในร่างกายและขณะที่อยู่ภายในหลอดทดลอง วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาการออกฤทธิ์ต้านฮิสตะมีน (Antihistamine effect) ของไพลโดยดูขนาดที่ลดลง ของรอยนูนแดงที่ผิวหนังเมื่อตรวจด้วยวิธีการสะกิดฮีสตะมีน และสารก่อภูมิทางผิวหนังในผู้ป่วยภูมิแพ้ วัสดุและวิธีการวิจัย : เป็นการศึกษาแบบสลับการรักษา (Prospective cross over study) ในผู้ป่วยโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้จานวน 20 ราย โดยอาสาสมัครจะได้รับยาทั้ง 2 ชนิด คือ ยาไพลและยา loratidine โดยเว้นช่วงระหว่างการได้รับยา 1 สัปดาห์ ศึกษาฤทธิ์ต้านฮิสตะมีนโดยการตรวจทดสอบทางผิวหนังน้ายาสารฮิสตะมีน (Histamine 1 mg/ml) และสารก่อภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อย (ไรฝุ่น,แมลงสาบ, เกสรหญ้า, ขนแมว, รังแคสุนัข) ที่เวลา 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12 และ 24 ชั่วโมงหลังการรับประทานยาแต่ละชนิด ผลการศึกษา : ยาไพลสามารถยับยั้งปฎิกิริยา wheal ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยฮิสตะมีนโดยมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ 6 ชม.ขนาดลดลงจาก 4.58 เป็น 3.68 มม. (P < 0.01) ในขณะที่ขนาดของ wheal ที่เกิดจากการกระตุ้นด้วยไรฝุ่นมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ 4 ชม.ขนาดลดลงจาก 5.98 เป็น 4.98 มม. (P < 0.01). ยา loratadine สามารถยับยั้งปฏิกิริยา wheal ที่เกิดขึ้นจากการกระตุ้นด้วย histamine โดยออกฤทธิ์สูงสุดที่ 3 ชั่วโมง ขนาดลดลงจาก 4.83 เป็น 3.23 มม. (P < 0.01) ในขณะที่ขนาดของ wheal ที่เกิดจากการกระตุ้นด้วยไรฝุ่นลดลงจาก 5.73 เป็น 3.80 (P < 0.01) เมื่อเปรียบเทียบพบว่ายา loratadine มีคุณสมบัติในการยับยั้งได้มากกว่าทั้งจากการกระตุ้นด้วยฮิสตะมีน และ ไรฝุ่น บทสรุป : ยาไพลในขนาด 200 มิลลิกรัมของสารสกัดไพลฤทธิ์ต้านฮิสตะมีน โดยรอยนูนและรอยแดงลดลงอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติเมื่อทดสอบด้วยน้ายาฮิสตามีนและสารก่อภูมิแพ้ แต่น้อยกว่าฤทธิ์ต้านฮิสตะมีนของยา loratidine ขนาด 10 มิลลิกรัม
วันเดือนปีที่พิมพ์
ที่อยู่ผู้พิมพ์
Call number/ISBN
ภาษาที่ใช้
เอกสาร
เอกสาร
โครงการวิจัยย่อยที่ 6 ผลของยาไพลในการยับยั้งปฏิกิริยารอยนูนแดงของสารฮิสตะมีนและสารก่อภูมิแพ้ที่ผิวหนังของผู้ป่วยโพรงจมูกอักเสบภูมิแพ้.pdf
สมุนไพรที่พบในงานวิจัย
ชื่อสมุนไพรที่ค้นพบในงานวิจัย
ตำรับ/ยาเดี่ยวที่พบในงานวิจัย
ชื่อตำรับยาที่ค้นพบในงานวิจัย
จำนวนคนเข้าใช้งาน
คน