เจ้าของ/ผู้พิมพ์
|
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
|
เจ้าของลิขสิทธิ์
|
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
|
ชนิดของเอกสาร |
บทคัดย่อ
|
วิจัย
|
การแพทย์แผนไทย
|
ประเภทของงานวิจัย |
วิทยาศาสตร์
|
2
|
3
|
คำสำคัญของงานวิจัย
|
|
บทคัดย่อ/สาระสำคัญ
|
โครงการวิจัยนี้ได้นำองค์ความรู้ตามภูมิปัญญาพื้นบ้านจากฐานข้อมูล “มโนสร้อย 3” ที่เกี่ยวข้องกับอายุวัฒนะและเสริมภูมิคุ้มกันมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรแผนปัจจุบัน โดยใช้คำสาคัญในการสืบค้นหาตำรับ คือ “อายุวัฒนะ” “อ่อนเพลีย” “บารุงร่างกาย” และ “บำรุงกาลัง” และพิจารณาคำเสริมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น “ร่างกายแข็งแรง” “ทำให้มีแรง” และ “รักษาโรคภัยไข้เจ็บ” เป็นต้น พบจำนวนทั้งสิ้น 309 ตำรับและคัดเลือกมาเตรียมสารสกัด 36 ตัวอย่าง ทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพที่เกี่ยวข้องกับการชะลอวัยของสารสกัดตารับยาสมุนไพรที่คัดเลือกมา ซึ่งได้แก่ ฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์ telomerase ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชัน และฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส พบว่า สารสกัด IM2-03N สามารถกระตุ้นเอนไซม์ telomerase สูงสุดได้ 114.96% ของกลุ่มควบคุม สารสกัด LG-03C มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันสูงที่สุดโดยมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับ lipopolysaccharide (LPS; positive control) คิดเป็น 1.01 เท่าของ LPS และสามารถกระตุ้นการสร้างไนตริกออกไซด์ในเซลล์เพาะเลี้ยง macrophage ได้สูงสุด 32.46±3.28% คิดเป็น 1.37 เท่าของ LPS สารสกัดที่มีฤทธิ์จับอนุมูลอิสระ ยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันไม่อิ่มตัวและยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสสูงที่สุดคือ สารสกัด LGIM-05C ซึ่งมีค่า SC50 เท่ากับ 0.05±0.00 mg/ml คิดเป็น 2.8 เท่าของวิตามินซี สารสกัด LG-04N และ LG-05C ซึ่งมีค่า IPC50 เท่ากันคือ 0.02±0.00mg/ml คิดเป็น 3.5 เท่าของวิตามินซีและสารสกัด IM2-03N ซึ่งมีค่า IC50 เท่ากับ 0.004±0.000 mg/ml คิดเป็น 5 เท่าของกรดโคจิก ตามลาดับ จากผลการทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพได้คัดเลือกสารสกัดจากตารับสมุนไพรทั้งหมด 8 ตำรับไปเตรียมเป็นสารสกัดแบบผสม (cocktails) แบบจับคู่ได้ทั้งหมด 28 ตัวอย่างแล้วทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพอีกครั้ง พบว่าสารสกัดแบบผสม LGCT17 มีฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์ telomerase สูงสุดเท่ากับ 108.23% ของกลุ่มควบคุม สารสกัดแบบผสมที่มีฤทธิ์จับอนุมูลอิสระและฤทธิ์ยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันไม่อิ่มตัวสูงสุด คือ สารสกัด LGCT11 ซึ่งมีค่า SC50 เท่ากับ 0.44±0.02 mg/ml และ LGCT27 ซึ่งมีค่า IPC50 เท่ากับ 0.01±0.00mg/ml คิดเป็น 0.14 และ 5 เท่าของวิตามินซี ตามลาดับ สารสกัดที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสสูงสุดคือ สารสกัด LGCT15 ซึ่งมีค่า IC50 เท่ากับ 0.02±0.00 mg/ml คิดเป็น 0.5 เท่าของกรดโคจิก เมื่อทดสอบฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน พบว่าสารสกัด LGCT04 สามารถกระตุ้นการเกิด phagocytosis สูงสุดเท่ากับ 62.80±2.88% เมื่อทดสอบด้วยวิธี NBT (0.81 เท่าของ LPS) และสารสกัด LGCT13 สามารถกระตุ้นการสร้างไนตริกออกไซด์ได้สูงสุดเท่ากับ 207.99±12.60% เมื่อทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยง macrophage (7.31 เท่าของ LPS) สามารถคัดเลือกตำรับเดี่ยวที่มีฤทธิ์ชะลอวัยสูงสุด 1 ตำรับ (พิจารณาจากฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์ telomerase ฤทธิ์ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชันและฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส) คือ LG-10C ตารับเดี่ยวที่มีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกันสูงสุด 1 ตำรับ (พิจารณาจากฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันและฤทธิ์ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชัน) คือ IM1-02NE และตำรับแบบผสมที่มีฤทธิ์ทั้งสองสูงสุดอีก 1 ตารับ คือ LGCT17 ทั้ง 3 ตำรับมีความปลอดภัยในระดับสูง โดยขนาดที่ทาให้หนูตายครึ่งหนึ่ง (LD(LD(LD50 ) มีค่ามากกว่า 5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight 5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight5,000 mg/kg body weight ทั้งนี้ ได้คัดเลือกสารสกัด LG-10C ซึ่งเป็นสารสกัดที่มีฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์เทโลเมอเรสสูงสุดและประกอบด้วยสมุนไพรจำนวน 5 ตัวและมีความปลอดภัยเมื่อทดสอบความเป็นพิษแบบกึ่งเรื้อรัง ไปเตรียมเป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรแผนปัจจุบันในรูปแบบแคปซูล แคปซูลที่พัฒนาได้มีความผันแปรของน้าหนักและระยะเวลาการแตกตัวผ่านเกณฑ์ที่กำหนด มีความคงตัวทางกายภาพและเคมีเมื่อเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่างๆ (4±2, 25±2 และ 45±2 °C) นาน 12 สัปดาห์ โดยที่อุณหภูมิ 4±2oC มีปริมาณ flavone เหลืออยู่สูงสุดเท่ากับ 90.69±0.20% ของเวลาเริ่มต้น และมีค่า half life (T50) และ shelf life (T90) เท่ากับ 125 และ 13.75 สัปดาห์ ตามลาดับ สาหรับสารสกัด LG-10C ไม่พบการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ (S. aureus, Clostridium spp., Salmonella spp. และ E .coli) และผลิตภัณฑ์แกรนูลที่มีส่วนผสมของสารสกัด LG-10C ไม่มีการปนเปื้อนของสารหนู พบการปนเปื้อนของตะกั่วเล็กน้อยแต่มีค่าไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กาหนด (< 1 mg/อาหาร 1 kg) สารสกัด LG-10C มีต้นทุนการผลิตราคากิโลกรัมละ 7,109.58 บาท ส่วนต้นทุนการเตรียมผลิตภัณฑ์แคปซูลบรรจุแกรนูลที่มีส่วนผสมของสารสกัดตารับยาสมุนไพรอายุวัฒนะและเสริมภูมิคุ้มกัน (LG-10C) มีต้นทุนการผลิตเท่ากับแคปซูลละ 2.52 บาท ผลงานวิจัยนี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในเชิงพาณิชย์ของตารับยาสมุนไพรไทยที่คัดเลือกมาในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรแผนปัจจุบันอายุวัฒนะและเสริมภูมิคุ้มกัน
|
วันเดือนปีที่พิมพ์
|
|
ที่อยู่ผู้พิมพ์
|
|
Call number/ISBN
|
|
ภาษาที่ใช้
|
|
|
|