คลังความรู้
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
Department of Thai Traditional and Alternative Medicine
คลังความรู้
เกร็ดความรู้
ถาม-ตอบ ข้อมูลสมุนไพร
เกี่ยวกับเรา
คลังความรู้
ข้อมูลงานวิจัย
ชื่อเรื่อง
ประสิทธิผลของสารสกัดขิงในการลดอาการปวดของมารดาหลังคลอดปกติครรภ์แรก
ชื่อเรื่อง (ภาษาอังกฤษ)
Efficacy of Ginger Extract on Pain Relief for First Normal Postpartum Women
ชื่อเรื่อง (ภาษาจีน)
สถานะของงานวิจัย
เสร็จสิ้นการดำเนินการ
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ - นามสกุล
e-mail
ผศ.ดร.นวลจันทร์ ใจอารีย์
เจ้าของ/ผู้พิมพ์
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
เจ้าของลิขสิทธิ์
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ชนิดของเอกสาร
รายงานฉบับสมบูรณ์
วิจัย
การแพทย์แผนไทย
ประเภทของงานวิจัย
วิทยาศาสตร์
2
3
คำสำคัญของงานวิจัย
บทคัดย่อ/สาระสำคัญ
บทนำ: ในการดูแลมารดำหลังคลอด ตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด จนถึง 72 ชั่วโมงแรกหลังคลอดนั้น อาการทำงคลินิกที่พบบ่อย ได้แก่ อาการปวดมดลูก, ปวดแผลฝีเย็บ, คัดตึงเต้านม หากอาการดังกล่าวมากขึ้น จะมีการใช้ ยาลดปวดกลุ่ม NSAID ที่มีฤทธิ์ยับยั้ง สารพรอสตำแกลนดิน (prostaglandin E2) ทำงการแพทย์แผนไทย ขิง จัดเป็นอาหารสมุนไพร ที่คนไทยนิยมใช้สำหรับสตรีหลังคลอด โดยใช้ในรูปอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยมีความเชื่อว่าช่วยเพิ่มน้ำนมในระยะหลังคลอด ในทางสรรพคุณยำไทยนอกจากขิงจะมีสรรพคุณด้าน ขับลม ลดอาการแน่นท้อง จุกเสียด แล้ว และยังพบขิงเป็นส่วนประกอบในตำรับยาลดไข้ลดปวดด้วย อีกทั้งขิงเป็นสมุนไพรที่มีการศึกษาทำงเภสัชวิทยา ทั้งด้านฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และ พิษวิทยา พบสารกลุ่ม gingerol ในสารสกัดชั้นเอทานอลของขิง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบด้วยการยับยั้ง พรอสตำแกลนดิน (prostaglandin E2) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ปวดมดลูก ฝีเย็บ ในมารดำหลังคลอดได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้วิจัยเห็นสมควรว่าควรมีการวิจัยสมุนไพรขิงในรูปของยาแคปซูลสารสกัดขิงเพื่อศึกษาควำมปลอดภัยและประสิทธิผลเพื่อลดอาการปวดมดลูก ปวดแผลฝีเย็บ และปวดเต้านมของมารดาหลังคลอดปกติครรภ์แรก เพื่อนำไปใช้สนับสนุนองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย ทั้งในด้านลดปวด และการเพิ่มน้ำนมต่อไป วัตถุประสงค์ของกำรวิจัย: เพื่อศึกษำฤทธิ์ทำงชีวภาพ ความคงตัวของสำรสกัดขิงและศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของสำรสกัดขิงในกำรลดการปวดที่ตำแหน่ง มดลูก แผลฝีเย็บ และเต้านม วิธีการศึกษา: วิธีการศึกษำแบ่งเป็น 2 ตอนคือ ตอนที่1 การศึกษาในห้องปฎิบัติการ เริ่มที่ทำการแยกสกัดขิง ชั้น 95% เอทำนอลและชั้นน้ำ นำไปทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพ ด้วยวิธีการยับยั้งไนตริกออกไซด์ และ กำรยับยั้งการหลั่ง สารพรอสตร้าแกรนดิน อีทู ในเซลล์แมคโครฟาจ RAW 264.7 ศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ด้วยวิธี DPPH radical scavenging assay และศึกษาปริมาณสำรประกอบฟีนอลรวมด้วยวิธี Folin-Ciocalteu Colorimetric ศึกษาความคงตัวของสำรสกัดขิงภายใต้สภาวะเครียด ในช่วงเวลำที่แตกต่างกัน ศึกษามาตรฐานเม็ดยาและผงยาสมุนไพร ที่จะใช้ในงานวิจัยทางคลินิค และเลือกสารสกัดที่จะนำมำทำยาแคปซูลสารสกัดขิง จากฤทธิ์ทางชีวภาพที่ได้จำกการทดสอบในขั้นตอนที่ 1 ตอนที่ 2 การวิจัยทางคลินิกเชิงทดลอง ในอาสาสมัคร แบบ Single - Blind Randomize Controlled Trial โดยแบ่งอาสาสมัคร ออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 33 ราย ได้แก่ กลุ่มทดลอง คือ ได้รับยาแคปซูลสำรสกัดขิง ขนำด 100 มิลลิกรัม จำนวน 2 แคปซูล วันละ 3 เวลา หลังอาหาร (600 มิลลิกรัมต่อวัน) กลุ่มควบคุม ยำหลอก (Placebo) ขนาด 500 มิลลิกรัม จำนวน 2 แคปซูล วันละ 3 เวลา หลังอาหาร และ กลุ่มควบคุมที่ได้รับ paracetamol 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง หรือตามแพทย์สั่ง ประเมินผลการรักษาและอาการข้ำงเคียง ก่อนการให้ยา (2 ชั่วโมงหลังคลอด) และ หลังให้ยาที่ 24, 48 และ 72 ชั่วโมงหลังคลอด ด้วย numeric rating scale: NRS งานวิจัยนี้ได้รับอนุมัติจำกคณะกรรมการจริยธรรมในคน จากคณะแพทยศาสตร์ มหวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผลกำรศึกษา: ตอนที่ 1 พบว่า ผงยาสมุนไพรขิง มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานยาสมุนไพร และ สารสกัดขิงชั้น 95%เอทานอล มีฤทธิ์ทางชีวภาพดีกว่าสารสกัดขิง ชั้นน้ำ - สารสกัดขิงชั้น 95% เอทานอลมีฤทธิ์ต้ำนการอักเสบ ด้วยวิธีการยับยั้งการหลั่งไนตริกออกไซด์ (IC50 = 13.47±0.20 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร) ดีกว่ำ สารสกัดขิงชั้นน้ำ (IC50 >100 μg/ml) - สารสกัดขิงชั้น 95% เอทำนอลมีฤทธิ์ต้ำนการอักเสบ (IC50 =0.40±0.06 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร) ด้วยวิธีการยับยั้งการสร้ำงพรอสตาแกลนดิน ดีกว่าสำรสกัดขิงชั้นน้ำ (IC50 =76.78±13.04 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร) - สารสกัดขิงชั้น 95% เอทำนอล (EC50 =11.69 ± 0.86 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ดีกว่า สำรสกัดขิงชั้นน้ำ (EC50 = 64.88±3.80 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร) - สำรประกอบฟีนอลรวมทั้งหมดสารสกัดขิงชั้น 95% เอทานอลมีค่าสารประกอบฟีนอล (108.60±1.0 mg GAE/g) สูงกว่า สารสกัดชั้นน้ำที่มีค่วสวรประกอบฟีนอลรวม เท่วกับ 28.66±0.8 mg GAE/g) - สำรสกัดขิงชั้น 95% เอทานอล สามารถเก็บอยู่ในอุณหภูมิปกติและยังคงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้นาน 2 ปีและมีความเหมาะสมในการเลือก มาทำยาแคปซูลสารสกัดขิง เพื่อใช้กับอาสาสมัครต่อไป ตอนที่ 2 - ยำแคปซูลสารสกัดขิง แสดงฤทธิ์ในการลดปวดแผลฝีเย็บ และมดลูกได้ แต่ดีที่สุดในการลดปวดที่แผลฝีเย็บโดยมีค่าเฉลี่ยระดับคะแนนปวดที่ลดลง อย่างชัดเจน ในกลุ่มที่รับยาแคปซูลสารสกัดขิง และ ลดปวดได้มากกว่า เมื่อเทียบกับ ตำแหน่ง มดลูก และ การลดปวดโดยรวม โดยมีควำมแตกต่างของระดับคะแนนเฉลี่ยก่อน และหลังรับยา อย่ำงมีนัยสำคัญทำงสถิติ (p value < 0.05) - ยาแคปซูลสารสกัดขิง มีฤทธิ์ในการลดปวด แผลฝีเย็บได้ดีกว่า กลุ่มยาหลอกและยาพำาราเซตามอล โดยมีความแตกต่างของระดับคะแนนเฉลี่ย ก่อน และ หลังรับยา อย่ำงมีนัยสำคัญทำงสถิติ (p value < 0.05) - ยาแคปซูลสารสกัดขิง ไม่มีฤทธิ์ในการลดปวด คัดตึงเต้ำนม และไม่แตกต่างจากกลุ่มยาหลอก และ ยาพาราเซตามอล - กลุ่มที่รับยาแคปซูลสารสกัดขิง มีระดับคะแนนเฉลี่ย ปวดคัดตึงเต้ำนม ก่อนรับยาที่ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และหลังรับยาที่ 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมงหลังคลอด นั้น พบว่า มีระดับคะแนนเฉลี่ย ปวดคัดตึงเต้ำนมสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกัน พบว่า กลุ่มที่รับยาแคปซูลสารสกัดขิงมีระดับการไหลของน้ำนมสูงขึ้น จำก 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และดีที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่ม ยาหลอก และ ยาพาราเซตามอล มีควำมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทำงสถิติ (p value < 0.05) - ยาแคปซูลสารสกัดขิง ยาหลอก ยาพาราเซตามอล ไม่มีควำมแตกต่างกันอย่ำงมีนัยสำคัญทำงสถิติ (p value < 0.05) ในการลดปวดที่มดลูก ทั้งที่ 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมงหลังคลอด โดยมีระดับค่าเฉลี่ยคะแนน ก่อนรับยาและหลังรับยา ใกล้เคียงกัน - คะแนนความปวดรวม ของทั้ง 3 กลุ่ม ไม่มีความแตกต่างกันอย่ำงมีนัยสำคัญทำงสถิติ (p value < 0.05) นั่นคือ ทั้ง ยำแคปซูลสำรสกัดขิง ยาหลอก ยาพาราเซตำมอล ไม่มีความแตกต่างกัน ในกำรลดอาการปวดโดยรวม โดยมีระดับค่ำเฉลี่ยคะแนนก่อนรับยาและหลังรับยา ใกล้เคียงกัน - ยาแคปซูลสารสกัดขิงมีควำมปลอดภัย ไม่มีควำมแตกต่างกันอย่ำงมีนัยสำคัญทำงสถิติ (p value < 0.05) จำกกลุ่มยาหลอก และ ยำพาราเซตามอล สรุปและเสนอแนะ จากงานวิจัยนี้ สรุปได้ว่า ยาแคปซูลสารสกัดขิง (600 มิลลิกรัมต่อวัน) จากสารสกัดชั้น 95% เอทานอล สามารถนำมำใช้ลดปวดแผลฝีเย็บหลังคลอดในช่วง 2-48 ชั่วโมงหลังคลอดได้ และดีกว่า ยาพาราเซตามอล และ ยาหลอก อีกทั้งยัง ช่วยเพิ่มระดับกำรไหลของน้ำนมได้ ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงหลังคลอดได้ใน มารดาคลอดปกติ ครรภ์แรก โดยมีความปลอดภัย และไม่พบอาการข้างเคียง
วันเดือนปีที่พิมพ์
ที่อยู่ผู้พิมพ์
สำนักงานบริหารกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
Call number/ISBN
ภาษาที่ใช้
เอกสาร
เอกสาร
ประสิทธิผลของสารสกัดขิงในการลดอาการปวดของมารดาหลังคลอดปกติครรภ์แรก.pdf
สมุนไพรที่พบในงานวิจัย
ชื่อสมุนไพรที่ค้นพบในงานวิจัย
ขิง : Zingiber officinale Roscoe
ตำรับ/ยาเดี่ยวที่พบในงานวิจัย
ชื่อตำรับยาที่ค้นพบในงานวิจัย
จำนวนคนเข้าใช้งาน
คน