คลังความรู้

ข้อมูลงานวิจัย

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อ - นามสกุล	e-mail
ผศ.ดร.วิลาสินี หิรัญพานิช ซาโตะ

เจ้าของ/ผู้พิมพ์	กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
เจ้าของลิขสิทธิ์	กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ชนิดของเอกสาร	บทคัดย่อ
วิจัย	การแพทย์แผนไทย
ประเภทของงานวิจัย	วิทยาศาสตร์
	2
	3
คำสำคัญของงานวิจัย	ใบย่านางแดง แซนทีนออกซิเดส ต้านอนุมูลอิสระ เกาต์
บทคัดย่อ/สาระสำคัญ	จากคำบอกเล่าของผู้ป่วยโรคเกาต์ว่าการดื่มนาต้มใบย่านางแดง มีผลช่วยในการช่วยลดระดับกรดยูริก ในเลือด อย่างไรก็ตามยังไม่มีการข้อมูลและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยืนยันผลนี้ ดังนั้นการวิจัยครั้งนี จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบฤิทธิ์ของสารสกัดน้ำของใบย่านางแดง ในการยับยั้งเอนไซม์แซนทีนออกซิเดสซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำหน้าที่สำคัญในการเปลี่ยนจากสารพิวรีนเป็นกรดยูริกในร่างกาย โดยทำการทดสอบทั้งในหลอดทดลอง และในสัตว์ทดลองซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะกรดยูริกในเลือดสูง โดยการฉีดสารโปแตสเซียมออกโซเนท และทดสอบฤิทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ผลการทดลองในหลอดทดลอง พบว่า สารสกัดนาของใบย่านางแดงมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานเอนไซม์แซนทีนออกซิเดส โดยมีค่าความเข้มข้นการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แซนทีนออกซิเดสที่ 50% มีค่าเป็น 231 ไมโครกรัม / มล. และจากการวิเคราะห์หาจลนศาสตร์ของเอนไซม์โดยใช้ Lineweaver-Burk plot พบว่าสารสกัดนาของใบย่านางแดงออกฤทธิ์ยับยั งเอนไซม์แซนทีนออกซิเดสแบบไม่แข่งขัน โดยมีค่าคงที่การยับยั้ งเอนไซม์มีค่าเป็น 177 ไมโครกรัม / มล. และผลการทดลองโดยการป้อนสารสกัดนาของใบย่านางแดงในหนูไมซ์ ซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะกรดยูริกในเลือดสูงโดยการฉีดสารโปแตสเซียมออกโซเนทขนาด 300 มก./กก. ติดต่อกันนาน 7 วัน พบว่าการป้อนด้วยสารสกัดนาของใบย่านางแดงขนาด 100 และ 200 มก./กก. มีฤทธิ์ลดระดับกรดยูริกในเลือดหนูทดลองอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ เมื่อเปรียบเทียบกับหนูทดลองกลุ่มที่ไม่ได้รับการป้อน (p<0.05) นอกจากนั้งหลังจากสิ้นสุดการทดลอง นำตับของหนูทดลองแต่ละกลุ่มมาสกัดเป็นไมโครโซมและทดสอบฤทธิ์ต้านการทำงานเอนไซม์แซนทีนออกซิเดสในไมโครโซมนอกร่างกาย ผลการทดลองพบว่าหนูทดลองกลุ่มที่ได้รับการป้อนด้วยสารสกัดน้ำของใบย่านางแดงขนาด 100 และ 200 มก./กก. มีประสิทธิภาพในการต้านการทางานของเอนไซม์แซนทีนออกซิเดสเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะยูริกในเลือดสูง คิดเป็นร้อยละ 56.9 และ 66.3 ตามลาดับ นอกจากนั้นจากการทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระพบว่าสารสกัดนาของใบย่านางแดงมีปริมาณสารสาคัญกลุ่มฟีนอลลิคและ ฟลาโวนอยด์ คิดเป็น 197.8 ± 5.8 มก. เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของกรดแกลิก/ กรัมของสารสกัด และ 32.2 ± 1.2 เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของกรดเคอร์ชิซีน/ กรัมของสารสกัด ตามลำดับ และคำนวณความเข้มข้นของสารต้านออกซิเดชันที่ทำให้ความเข้มข้นของ DPPH เหลืออยู่ 50% มีค่าเป็น 44.32 ไมโครกรัม / มล. และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ประเมินโดยวิธีของ ABTS และ FRAP คำนวณได้เป็น 559.1 ± 23.8 มก. เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของสารมาตรฐานโทรล็อก/ กรัมของสารสกัด และ 1.16 ± 0.07 มิลลิโมล เฟอร์รัสซัลเฟส /กรัมของสารสกัด ตามลำดับ การทดลองนี้ เป็นการทดลองแรกที่พบว่าสารสกัดนาของใบย่านางแดงมีฤทธิ์ลดระดับกรดยูริกในเลือดโดยคาดว่าเกิดจากฤทธิ์ต้านการทำงานของเอนไซม์แซนทีนออกซิเดสในตับ โดยมีกลไกในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แบบไม่แข่งขัน นอกจากนั้น พบว่าสารสกัดน้ำของใบย่านางแดงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
วันเดือนปีที่พิมพ์
ที่อยู่ผู้พิมพ์	สำนักงานบริหารกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
Call number/ISBN
ภาษาที่ใช้

เอกสาร

การทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดน้ำจากใบย่านางแดงในการยับยั้งเอมไซม์แซนทีนออกซิเดสและฤทธิ์ลดระดับกรดยูริกในเลือดของหนูทดลองที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะเกาต์โดยการให้สารอ๊อกโซเนท.pdf

สมุนไพรที่พบในงานวิจัย

ชื่อสมุนไพรที่ค้นพบในงานวิจัย
ย่านาง/หญ้านาง : Tiliacora triandra (Colebr.) Diels

ตำรับ/ยาเดี่ยวที่พบในงานวิจัย

ชื่อตำรับยาที่ค้นพบในงานวิจัย

จำนวนคนเข้าใช้งาน

คน

โมบายแอปพลิเคชัน ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้	สามารถติดต่อเราผ่าน Line ได้แล้ววันนี้	ติดตาม กรมการแพทย์แผนไทยฯ ผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ที่
			กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เลขที่ 88/23 หมู่ 4 ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 E-mail : iettcm.dtam@gmail.com โทรศัพท์ : (+66) 0-2591-7007 โทรสาร : (+66) 0-2591-7007
			Ⓒ สงวนลิขสิทธิ์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก Copyright Ⓒ 2015 Department of Thai Traditional and Alternative Medicine หน่วยงานหลัก: กองวิชาการและแผนงาน โดย กลุ่มงานวิชาการและคลังความรู้ (วค.)