คลังความรู้
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
Department of Thai Traditional and Alternative Medicine
คลังความรู้
เกร็ดความรู้
ถาม-ตอบ ข้อมูลสมุนไพร
เกี่ยวกับเรา
คลังความรู้
ข้อมูลงานวิจัย
ชื่อเรื่อง
การศึกษาประสิทธิผลทางคลินิกของยาประสะไพลแคปซูลต่อการฟื้นฟูสตรีหลังคลอด ในโรงพยาบาลบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง (ภาษาอังกฤษ)
-
ชื่อเรื่อง (ภาษาจีน)
-
สถานะของงานวิจัย
เสร็จสิ้นการดำเนินการ
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ - นามสกุล
e-mail
ชายศักดิ์ ถนนแก้ว
เลิศชัย จิตต์เสรี
สุวรรณา พาหุสัจจะลักษณ์
สุทิมา ศุกรีเขตร
จิราภรณ์ ม่วงพรวน
1
2
เจ้าของ/ผู้พิมพ์
วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ปีที่ 14 ฉบับที่2 (ฉบับเสริม)
เจ้าของลิขสิทธิ์
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
ชนิดของเอกสาร
บทคัดย่อ
วิจัย
การแพทย์แผนไทย
ประเภทของงานวิจัย
วิทยาศาสตร์
2
5
คำสำคัญของงานวิจัย
บทคัดย่อ/สาระสำคัญ
หลักการและเหตุผล โรงพยาบาลบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการใช้ยาประสะไพลแคปซูลร่วมกับยาแผนปัจจุบันในการฟื้นฟูสตรีหลังคลอด เนื่องจากยาประสะไพลเป็นตำรับยาสมุนไพรที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีลักษณะเป็นยาที่มีรสร้อนช่วยให้ร่างกายอบอุ่น น้ำนมไหลดี ช่วยขับโลหิตเสียออกจากร่างกาย โดยเริ่มมีการใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2556 จนถึงเดือนสิงหาคม 2559 คณะผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาประสิทธิผลทางคลินิกของยาประสะไพลแคปซูลต่อการฟื้นฟูสตรีหลังคลอด ในโรงพยาบาลบางปะอิน วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิผลทางคลินิกของยาประสะไพลแคปซูล ต่อการลดระดับของยอดมดลูก การเปลี่ยนแปลงของสีและปริมาณน้ำคาวปลา ในกลุ่มสตรีหลังคลอดของโรงพยาบาลบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วิธีดำเนินการ เป็นการศึกษาวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มเข้ากลุ่มทั้งหมดชนิดปกปิดสองฝ่าย โดยได้รับสารเลียนแบบไม่ออกฤทธิ์และยาประสะไพล ทำการศึกษาในอาสาสมัครสตรีหลังคลอดช่วงอายุ 20 – 35 ปี ที่ผ่านการคลอดปกติทางช่องคลอดจำนวน 60 ราย อาสาสมัครทุกคนจะได้รับยาแผนปัจจุบันสำหรับสตรีหลังคลอดตามปกติ และให้ยาเพิ่มแก่อาสาสมัครด้วยวิธีการสุ่ม โดยกลุ่มแรกได้รับยาประสะไพลแคปซูล และกลุ่มที่สองได้รับยาหลอก (สารเลียนแบบไม่ออกฤทธิ์) ทำการเก็บข้อมูลจากอาสาสมัครเป็นเวลา 10 วันหลังจากรับยา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบบันทึกการวัดระดับยอดมดลูก 2) แบบประเมินสีและปริมาณของน้ำคาวปลา จากนั้นทำการเก็บข้อมูลและทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อยืนยันประสิทธิผลของยาประสะไพล ผลการศึกษา พบว่าการลดลงของระดับยอดมดลูกในอาสาสมัครทั้งสองกลุ่มในระยะเวลา 10 วัน ไม่แตกต่างกัน (p>0.05) ด้านสีและความเข้มของน้ำคาวปลา พบว่าในกลุ่มของผู้ที่ได้รับยาประสะไพลมีสีน้ำคาวปลาอ่อนกว่ากลุ่มที่รับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยเริ่มเห็นความแตกต่างในวันที่ 2 หลังคลอด (p<0.05) และมีความแตกต่างกันมากที่สุดในวันที่ 2 (29.50%) และวันที่ 3 (29.20%) หลังคลอดตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบกับสีน้ำคาวปลาในวันแรก ส่วนในด้านปริมาณของน้ำคาวปลา พบว่าในกลุ่มของผู้ที่ได้รับยาประสะไพลมีปริมาณน้ำคาวปลามากกว่ากลุ่มที่รับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในวันที่ 2 ถึงวันที่ 6 หลังคลอด (p<0.05) และมีความแตกต่างมากที่สุดในวันที่ 5 (26.60%) หลังคลอด เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำคาวปลาในวันแรก แต่ในวันที่ 7 ถึงวันที่ 10 หลังคลอด ปริมาณน้ำคาวปลาของทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน (p>0.05) สรุปผล ยาประสะไพลแคปซูลไม่มีผลต่อการลดระดับมดลูกของสตรีหลังคลอด กล่าวคือไม่มีผลช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น แต่มีผลต่อสีของน้ำคาวปลาและมีประสิทธิภาพในการขับน้ำคาวปลาอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก จึงควรจะส่งเสริมให้มีการใช้ยาประสะไพลร่วมกับยาแผนปัจจุบันเพื่อฟื้นฟูสตรีหลังคลอดให้มากยิ่งขึ้น
วันเดือนปีที่พิมพ์
4/9/2559
ที่อยู่ผู้พิมพ์
Call number/ISBN
ภาษาที่ใช้
เอกสาร
เอกสาร
MOU ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา.pdf
สมุนไพรที่พบในงานวิจัย
ชื่อสมุนไพรที่ค้นพบในงานวิจัย
ตำรับ/ยาเดี่ยวที่พบในงานวิจัย
ชื่อตำรับยาที่ค้นพบในงานวิจัย
ยาประสะไพล
จำนวนคนเข้าใช้งาน
คน